เมื่อบ่ายวานนี้ที่ 19 ก.ค. 2568 ที่ปราสาทตาเมือนธม ท่ามกลางบรรยากาศการท่องเที่ยวของผู้คนทั้งชาวไทยและกัมพูชา ได้เกิดเหตุการณ์ซึ้งใจขึ้น เมื่อทหารไทยเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลหญิงสูงวัยชาวกัมพูชาที่เป็นลมล้มฟุบ สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หญิงสูงวัยชาวกัมพูชาอายุประมาณ 70 กว่าปี ซึ่งเดินทางมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมพร้อมครอบครัวและญาติ ได้เป็นลมล้มฟุบลงบริเวณทางเข้าปราสาท ใกล้กับหลักหมุด GPS ทำให้เกิดความแตกตื่นแก่นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้น

ทันทีที่เห็นเหตุการณ์ ทหารไทย ที่ประจำการอยู่บริเวณดังกล่าวได้รีบเข้าให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว โดยมีทหารนายหนึ่งนำผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าและตัวคุณยาย เพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย ส่วนทหารอีกนายก็ใช้พัดช่วยพัดระบายความร้อนให้ จนกระทั่งคุณยายชาวกัมพูชามีอาการดีขึ้น ก่อนที่ทหารกัมพูชาจะเข้ามาช่วยกันประคองคุณยายกลับลงไปด้านล่างเพื่อเดินทางกลับฝั่งประเทศกัมพูชาต่อไป

เหตุการณ์นี้ได้สร้างความประทับใจอย่างยิ่งให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวกัมพูชาที่ได้เห็นถึงความใส่ใจและความช่วยเหลือจากทหารไทยอย่างใกล้ชิด ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนมิตรภาพที่ดีงามระหว่างสองประเทศ และช่วยลดทอนภาพความตึงเครียดบริเวณชายแดนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยม แสดงให้เห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่อาจมีความเปราะบาง แต่ทหารไทยก็ยังคงยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมและไม่เคยเลือกปฏิบัติเมื่อชีวิตเพื่อนบ้านตกอยู่ในภาวะคับขัน

ในวันเดียวกัน ทนายโนบิ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีเหตุการณ์หญิงชาวกัมพูชาชี้หน้าด่าทอทหารไทยเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ การลงพื้นที่ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทนายโนบิได้พาลุงสมหมาย อดีตทหารพราน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.พนมดงรัก อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์

ทนายโนบิยังยืนยันว่า ได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีกับหญิงชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นทหารกัมพูชายศพันเอกหญิง เนื่องจากเชื่อว่าเธอเป็นผู้สร้างสถานการณ์ความปั่นป่วน จนทำให้ชาวไทยต้องตื่นตระหนกและอพยพออกจากพื้นที่ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้