โรงเรียนเคลื่อนไหวแล้ว หลังแม่โพสต์ ลูกสาววัย 4 ขวบ กลับจากโรงเรียน หัวปูด-ตาปิด
ข่าวสังคม - โซเชียล

โรงเรียนเคลื่อนไหวแล้ว หลังแม่โพสต์ ลูกสาววัย 4 ขวบ กลับจากโรงเรียน หัวปูด-ตาปิด

จากกรณี คุณแม่รายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า กลับมาหาลูก 6โมงเย็น เจอลูกสภาพนี้ค่ะ (ลูก4ขวบครึ่ง) หน้าบวมฉึ่ง หัวปูดตาปิด ใต้ตาบวม ยายบอกตอนมาจาก รร.คือตาบวมแทบปิด หน้าผากโนเป็นลูกมะกรูด(ตอนนี้ยุบลงแต่ก็ยังโนตามรูป) (นี่เป็นครั้งที่2ที่น้องเจ็บตัวจากการไปโรงเรียน) โทรไปสอบถามครู ครูบอกไม่เห็นตอนน้องเจ็บ ครูอยู่ในห้อง น้องเล่นข้างนอก #มีเพื่อนน้องวิ่งมาบอกว่าน้องเจ็บ น้องร้องไห้ไม่หยุด ไม่บอกว่าเล่นยังไงถึงเจ็บ อ่ะจริงๆ คือตอนแรกก็โมโหแล้วนะ เพราะว่าตั้งแต่เปิดเทอมมา น้องเจ็บตัวมากๆมา2ครั้งแล้ว ครั้งแรกน้องบอกเพื่อนผลักเข่าแตกมา เป็นแผลใหญ่ แผลเปิดประมาณ5cm เป็นหลุมมาเลย แผลพึ่งหายไป ครั้งนั้นครูก็ไม่แจ้ง และก็ไม่เห็นเหตุการณ์เหมือนกัน แต่ครั้งนี้ที่โมโหจนตัวสั่นเพราะ คำพูดครูมันแย่ ครูบอกน้องเจ็บตัวตั้งแต่เที่ยง ร้องไม่หยุด

#ก็เอาน้ำแข็งประคบให้แล้วไง คำพูดครู คือลูกเจ็บขนาดนี้ แต่ไม่แจ้งผู้ปกครอง ไม่พาหาหมอ ให้เด็กนั่งร้องนั่งทนจนเย็น ตอนยายไปรับตอนเย็น น้องยังร้องไม่หยุดเลย น้องบ่นปวดหัวไม่หยุด

เรา: ทำไมคุณครูไม่แจ้งผู้ปกครอง จะได้พาน้องไปหาหมอ

ครู: ไม่ทันคิดค่ะ #ไม่ทันคิด #มึ๊งงงพูดมาได้ยังไง

เรา: แล้วถ้าเราพาน้องรักษาไม่ทัน น้องเลือดคลั่ง กระโหลกร้าว หาหมอไม่ทันทำไง?

ครู: แล้วน้องเป็นแบบนั้นหรือยัง #มึ๊งงงงงพูดมาได้ยังไง

เรา: ครูพูดได้ยังไง มันชีวิตคนนะ ชีวิตลูกเราทั้งคนนะ การตัดสินใจการดูแลครูแย่มาก

ครู:#ขอโทษแล้วกันค่ะ น้ำเสียงรำคาญแม่ ไม่มีน้ำเสียงรู้สึกผิดเลย ละครูก็จบการสนทนาด้วยประโยคว่า ถ้าแม่ไม่พอใจก็เข้าไปเจอที่รร.ได้เลย

คือแบบบบบบ โมโหจนตัวสั่น น้ำตาไหล มันเป็นแบบนี้นี่เอง โรงเรียนมันไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยหรอ อุบัติเหตุเกิดได้ เล่นเจ็บได้ แต่มันต้องไม่ใช่การตัดสินใจให้เด็กร้องไห้เพราะเจ็บเพราะปวดครึ่งวันหรือเปล่า แม่ๆคนอื่นว่าไง เราเป็นแม่ที่คิดเยอะ คิดมากไปหรือเปล่า จากปากลูก ลูกบอกครูเอาน้ำเย็นมาเช็ดให้ บอกให้หยุดร้อง ละบังคับให้นอนหลับ เด็กหัวปูดตาปิดขนาดนี้ ไม่คิดจะสังเกตอาการเลยหร๊อออ บังคับเด็กหลับเนี่ยอ่ะนะ

ล่าสุดคุณแม่รายนี้ก็ได้อัพเดตเหตุการณ์หลังจากได้มีการโพสต์ออกไป ระบุว่า

มีแม่ๆทักมาถามเกี่ยวกับเรื่องน้องเยอะมากๆ ขอบคุณมากๆค่ะ เหตุเกิดมา6วันแล้วค่ะ อัพเดตอาการน้อง รอยช้ำที่หัวยังไม่หายดี ยังมีสีฟ้าอมเขียวนิดๆ แผลที่ใต้ตาแห้งแล้วค่ะ อาการข้างเคียงไม่มี ส่วนเรื่อง รร. น้องทำเรื่องย้าย รร แล้วค่ะ ไม่ได้ไป รร.เดิมแล้ว สาเหตุการเจ็บ ไม่ทราบเลยค่ะ เพราะ รร.ไม่มีกล้องวงจรปิด คุณครูไม่เห็น มีเพื่อนน้องที่เป็นเด็ก3-4ขวบด้วยกันที่เห็นถามไม่รู้ความเหมือนกัน ส่วนเรื่อง รร. หลังจากน้องเจ็บ เราโทรหาครูน้องตอน2ทุ่มค่ะ ที่ครูน้องพูดจาไม่ดี และลงท้ายว่าให้เข้าไปเจอที่ รร.ได้ หากไม่พอใจ

เห็นเด็กตอนเจ็บกัน3คน ผอ.พูดว่า ค่อยๆแก้ไข ปรับปรุงกันไปค่ะ คณะครูพูด เด็กคนนั้นก็เคยเจ็บ เด็กคนนั้นก็เคยเจ็บ เด็กคนนั้นไม่ได้สติ คนนั้นพาไปเอกซเรย์ คนนั้นพาไปทำแผล คนนั้นพาไป รพ. ฯ ไม่รู้ว่าจะสื่ออะไร จะสื่อว่าเด็กคนอื่นก็เจ็บที่โรงเรียน แต่ไม่เห็นมีผู้ปกครองคนไหนโวย หรืออะไร ยังไงก็ไม่เข้าใจค่ะ แต่อย่าลืมนะคะ ลูกเราแค่3-4ขวบ เขายังไม่รู้ความเท่าไรเลย ยังจัดระดับความเจ็บปวดไม่เป็นด้วยซ้ำ เจ็บก็แหกปากร้อง เขาไม่รู้ว่า เจ็บมากเจ็บน้อย ปวดมาก ปวดทนไม่ไหว ให้เขาหยุดร้อง บังคับเขาหลับ เขาก็ทำเพราะกลัวครูแค่นั้น จะรอให้เด็ก4ขวบเขาบอกว่าครูคะหนูปวดหัวจนทนไม่ไหวแล้ว จะตายแล้ว พาไปหาหมอหน่อยหรอคะ เข้าใจเด็ก3-4ขวบด้วยค่ะเขาไม่ได้เก่งการสื่อสารขนาดนั้นค่ะ

ส่วนครูประจำชั้น ตอนกลางคืนปากดีค่ะ พอตอนเช้า คำที่นางพูด นางยังเถียงว่าไม่ได้พูด ทั้งๆที่เราเปิดโฟน แม่เรา สามีเราก็ได้ยิน เราเลยไม่พูดกับครูประจำชั้นต่อเลยค่ะ ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำตัวเอง การตัดสินใจ แม้กระทั่งคำพูดตัวเอง คือจบ คนแบบนี้ไม่พร้อมคุยค่ะ เราร้องเขต ร้องกระทรวง ไปแล้วค่ะ ผลสรุปยังไม่ได้ค่ะ เรารู้นะคะ เด็กเล่นเจ็บได้ ทั้ง2ครั้งครูไม่เห็นเลย ก็ยังเข้าใจได้ หน้าที่ในการดูอาจบกพร่องก็พร้อมอภัยได้ แต่หน้าที่ในการแก้ปัญหา อภัยไม่ได้จริงๆค่ะ มันชีวิตคน ชีวิตลูกเรา เจ็บที่เข่ายังพออภัยได้ แต่ที่หัวนี่ มันเสี่ยงอันตรายมากนะคะ ไม่แจ้งผปค. ไม่พาหาหมอ ไม่สนใจ ไม่มีตามอาการ ปล่อยผ่านไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

อาจจะมีคนว่าแม่โวยวายเล่นใหญ่ไป ก็ช่างเขาค่ะ ต้องรอลูกตายหรอ ถึงจะโวยวายได้? ลูกเราแค่โชคดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อนเพิ่ม ถ้าเราไม่โวย บรรทัดฐานในการดูแลเด็กของครูก็ไม่ดีขึ้น เกิดเหตุอีกก็เพิกเฉยเหมือนเดิมอีก เด็กคนอื่นอาจจะไม่โชคดีเหมือนลูกเราก็ได้ค่ะ