เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 37หมู่ 3 บ้านโนนสังศรี ต.บ้านซ่ง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นบ้านของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา (จ่าโต๋) โดยบรรยากาศบริเวณบ้านเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของญาติผู้เสียชีวิต กำลังเตรียมสถานที่จัดพิธีศพฯ จ่าโต๋ ซึ่งเป็นทหารหน้าแนวรบระหว่างไทย - กัมพูชา ที่อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ถูกโจมตีฐานบังเกอร์แนวรบทำให้จ่าโต๋เสียชีวิตในบังเกอร์ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถนำร่างจ่าโต๋ ออกมาจากที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากยังมีการปะทะกันหนักหน่วงของทหารทั้งสองฝ่าย
จากการสอบถามนางวิไลย์ บุสภา 58 ปี แม่ของจ่าโต๋ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเพิ่งจะทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชายเมื่อเวลา 08.00 น. จากทหารที่รบอยู่แนวหน้า ต้นสายแจ้งว่าให้แม่ทำใจดี ๆ นะ เพราะมีคลิปหลุด ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าคลิปหลุดคืออะไร จากนั้น ต้นสายบอกว่า จ่าโต๋ ถูกระเบิดเสียชีวิตคาฐานปฎิบัติการตนเองก็ไม่คิดเลยว่า ลูกชายของตนจะตัองมาเสียชีวิตในสนามรบ
ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ลูกชายยังได้โทรศัพท์มาหาตนอยู่เลยและเล่าว่า ขณะนี้ทหารกัมพูชา ได้ยิงปืนเข้ามาที่ฐานอย่างหนัก ซึ่งลูกชายก็ได้ยิงตอบโต้เพื่อรอเพื่อนทหารยิงสมทบ เพื่อปกป้องอธิปไตย ตนเองก็ได้แต่ภาวนาให้เหตุการณ์ปะทะของทหารทั้ง 2 ฝ่ายจบลงเร็วๆ แต่ไม่คิดว่าลูกจะมาเสียชีวิตในสนามรบเช่นนี้ ตนเสียใจมาก โดย จ่าโต๋ ก็ยังมีครอบครัวและมีลูกชายอายุ 1 ขวบ 2 เดือน ตนเองภูมิใจที่ลูกชายเกิดมาและได้รับใช้ชาติจนนาทีสุดท้าย สมความปารถณาของลูกชาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงด้วยอาวุธหนัก ทั้งปืนใหญ่สนาม และจรวด BM-21 เข้ามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และต่อมาได้มีการยิงอาวุธหนักเข้าใส่ฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตโสม) อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเหตุให้ จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา ตำแหน่ง นายสิบลาดตระเวนปืนใหญ่ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 106 (ประจำฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น) เสียชีวิตดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวจังหวัดมุกดาหาร รายงาน