เจ้าอาวาสสุดเอือม! วอนเจ้าหน้าที่เร่งจับกุม หลังมีวัยรุ่ยบุกงัดตู้บริจากกว่า 30 ครั้งใน 1 ปี
ข่าวภูมิภาค

เจ้าอาวาสสุดเอือม! วอนเจ้าหน้าที่เร่งจับกุม หลังมีวัยรุ่ยบุกงัดตู้บริจากกว่า 30 ครั้งใน 1 ปี

วันนี้ (23 ก.ค. 68) ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ผู้ก่อตั้งเพจ ดร.แก้วช่วยได้ ได้เดินทางเข้าพบ พระครูวิมลสุวรรณกรสมพงษ์ แพฟื้น อายุ 64 ปี เจ้าอาวาสวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และพระลูกวัด เพื่อติดตามกรณีที่วัดถูกคนร้ายงัดแงะลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 22.00 น. มีกลุ่มเด็กชายอายุประมาณ 10-15 ปี จำนวน 3 คน เข้ามางัดตู้บริจาคและโต๊ะแลกเงิน ได้เงินไปรวม 20,000 บาท ก่อนจะหลบหนีไป

จากการตรวจสอบพบว่า ภายในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา วัดกู้ถูกคนร้ายเข้ามางัดแงะและลักทรัพย์สินภายในวัดมากถึงเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง รวมแล้วกว่า 30 ครั้ง ในบางครั้งทางวัดไม่ได้แจ้งความเนื่องจากเจ้าอาวาสไม่อยากเอาเรื่อง แต่ด้วยความถี่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าอาวาสตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด ในครั้งล่าสุด

พระครูวิมลสุวรรณกรสมพงษ์ เล่าว่าตนเองเป็นเจ้าอาวาสมา 19 ปี และเผชิญกับการโจรกรรมมาโดยตลอด เฉลี่ยเดือนละ 2-3 ครั้ง ปีละประมาณ 30 ครั้ง ล่าสุดจากภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นเด็กประถมอายุไม่เกิน 15 ปีที่ก่อเหตุ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวได้ ท่านมีความประสงค์ที่จะพบกับเด็กทั้ง 3 คน เพื่ออบรมสั่งสอน ไม่ให้ไปก่อเหตุในลักษณะนี้อีก

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : หมอข่าว ออนไลน์

สาเหตุที่วัดถูกโจรกรรมบ่อยครั้ง เนื่องจากมี ประตูหลังวัด ซึ่งชาวบ้านใช้เป็นทางเข้า-ออกประจำวันและไม่สามารถปิดได้ ทำให้คนร้ายใช้ช่องทางนี้ในการเข้ามาก่อเหตุบริเวณเดิมทุกครั้ง โดยทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปในครั้งล่าสุดประกอบด้วยเงินในลิ้นชักโต๊ะกว่า 5,000 บาท, เงินในตู้ให้อาหารวัวกว่า 3,000 บาท รวมถึงถุงเงินและเศษเหรียญอีกเกือบหมื่นบาท ทางวัดได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานขอดูกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมจากเทศบาลนครปากเกร็ด เพื่อใช้เป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

พระลูกวัดรูปหนึ่ง กล่าวเสริมว่า แม้ผู้ก่อเหตุจะเป็นเด็ก แต่ผู้ปกครองก็ควรออกมารับผิดชอบ เพราะการกระทำไม่ใช่พฤติกรรมของเด็กแล้ว และหากเจอพระขณะก่อเหตุก็อาจมีการทำร้ายร่างกายพระได้ ที่ผ่านมาทางวัดพยายามปิดประตูข้างวัดแล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยินยอมถึงขั้นตำหนิพระ โดยอ้างว่าพวกเขาอยู่มาก่อนวัด ทำให้ทางวัดต้องจำยอมเปิดไว้ ประกอบกับวัดไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแล

ด้าน ดร.แก้ว กล่าวว่า ตนจะเร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเร่งด่วน เนื่องจากวัดแห่งนี้ถูกโจรกรรมมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ครั้ง เชื่อว่าอาจมีผู้ใหญ่บงการอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากเยาวชนไม่น่าจะกล้าลงมือก่อเหตุลำพังได้ง่ายๆ ขณะนี้มีหลักฐานครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : หมอข่าว ออนไลน์

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : หมอข่าว ออนไลน์

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : หมอข่าว ออนไลน์

เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์

ข่าวที่คุณอาจสนใจ