เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าประจำงวดสุดท้ายของปี 2568 (เดือนกันยายน-ธันวาคม) ว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดเป้าหมายค่าไฟฟ้าไม่ให้เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย ทั้งในงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม และงวดกันยายน-ธันวาคม นั้น ล่าสุดสามารถตรึงค่าไฟให้อยู่ที่ 3.98 บาทต่อหน่วยได้สำเร็จ
สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ตนได้หารือร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อหาแนวทางในการปรับลดค่าไฟฟ้าในงวดสุดท้ายของปี ซึ่งครอบคลุมช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชน ทั้งนี้ เนื่องจากราคาก๊าซมีแนวโน้มปรับตัวลดลง และยังมีงบประมาณบางส่วนที่สามารถนำมาใช้สนับสนุน กฟผ. ในการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้เพิ่มเติม
ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์กล่าวอีกว่า นอกจากจะเสนอให้ ครม. อนุมัติกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ผมพยายามผลักดันให้ปรับลดค่าไฟฟ้าลงอีก ซึ่งจากการหารือกับ กฟผ. ก็ได้ข้อสรุปว่า มีแนวทางที่ดำเนินการได้ โดยอาศัยว่าราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดโลกปรับตัวลดลง และการนำเงินส่วนที่ กฟผ. กันไว้บางส่วน มาเป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าประชาชนน่าจะได้รับข่าวดีในเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ข้อสรุปว่าสามารถปรับลดค่าไฟฟ้าได้เพิ่มเติม ตามแนวทางที่ได้หารือร่วมกัน โดยคาดว่าอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 3.95 บาทต่อหน่วย ซึ่ง กฟผ. จะดำเนินการส่งหนังสือแจ้งไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อให้มีการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับงวดดังกล่าวตามที่เสนอไว้ต่อไป