ส่อแววชวดเงินหมื่นบาท รีบผูกพร้อมเพย์ ภายใน 23 เม.ย. 68
ข่าวเศรษฐกิจ

ส่อแววชวดเงินหมื่นบาท รีบผูกพร้อมเพย์ ภายใน 23 เม.ย. 68

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการจ่ายเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินหมื่น ผ่านผู้สูงอายุ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 3,025,596 ราย ว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการจ่ายเงินรอบแรกจำนวน 10,000 บาทต่อราย ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.-28 ก.พ. 68 สามารถจ่ายเงินสำเร็จไปแล้วถึง 2,983,788 ราย คิดเป็น 98.62% ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 กรมบัญชีกลาง ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่ผู้สูงอายุจำนวน 41,241 ราย (หลังหักผู้เสียชีวิต) แต่ผลปรากฏว่าสามารถโอนเงินสำเร็จเพียง 4,963 ราย และไม่สำเร็จถึง 36,278 ราย

สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้การโอนเงินไม่สำเร็จนั้น พบว่า มาจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่ถึง 35,096 ราย ยังไม่ได้ลงทะเบียนสมัครพร้อมเพย์เพื่อผูกบัญชีเงินฝากกับเลขประจำตัวประชาชน

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก 1,182 ราย อาทิ บัญชีธนาคารไม่เคลื่อนไหว ถูกปิด เลขที่บัญชีไม่ถูกต้อง หรือบัญชีธนาคารติดเงื่อนไข และไม่มีบัญชีธนาคาร

รีบผูกพร้อมเพย์ภายใน 23 เม.ย. 68

กระทรวงการคลังจะมีการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จึงขอให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิเข้าไปตรวจสอบผลการจ่ายเงินผ่านทางแอปพลิเคชั่นทางรัฐ หากปรากฏผลว่า โอนเงินไม่สำเร็จให้ประชาชนเร่งติดต่อธนาคารเพื่อดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับบัญชีเงินฝากด้วยเลขประจำตัวประชาชน

ส่วนประชาชนที่เคยผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนแล้วให้ติดต่อธนาคารเพื่อตรวจสอบบัญชีดังกล่าวว่ามีปัญหาใด เช่น บัญชีธนาคารถูกปิด บัญชีธนาคารติดเงื่อนไข บัญชีธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เป็นต้น และขอแก้ไขตามแต่ละกรณี โดยอาจจำเป็นต้องผูกพร้อมเพย์กับบัญชีใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมรับเงินในรอบถัดไป

กระทรวงการคลังขอแนะนำให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนภายในวันที่ 23 เม.ย. 68 ซึ่งจะได้รับการจ่ายเงินในรอบการจ่ายซ้ำ (Retry) ครั้งที่ 3 (ครั้งสุดท้าย) ในวันที่ 28 เม.ย. 68

เมื่อพ้นกำหนดการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ